มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา

หน้าหลัก > เสียงจากผู้บริจาคทุน EDF > Ms. Omura Etsuko ผู้บริหาร Tokyodo Books กับบทบาทในการช่วยเหลือ EDF

Ms. Omura Etsuko ผู้บริหาร Tokyodo Books กับบทบาทในการช่วยเหลือ EDF

“ดิฉันรู้สึกปลาบปลื้มยินดีอยู่ในใจทุกครั้งที่เห็นชาวญี่ปุ่นมาบริจาคเงินเพื่อทุนการศึกษาผ่าน EDF ที่เคาน์เตอร์ของร้าน ไม่นึกเลยว่าพวกเขาเหล่านั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นคนต่างชาติต่างภาษาแต่พวกเขาก็ยังใส่ใจในเรื่องของการศึกษาของประเทศไทยและเด็กไทย พวกเขาเองก็คงมุ่งหวังให้เด็กๆเหล่านั้นเป็นเด็กดี มีการศึกษาที่ดีเพื่ออนาคตของพวกเด็กๆเอง เพราะฉะนั้นดิฉันเองก็อยากฝากให้น้องๆที่ได้รับทุนจงตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีกำลังใจในการต่อสู้ต่อความยากลำบากในชีวิต และระลึกอยู่เสมอว่ามีผู้บริจาคทุนของตนอีกคนที่ยังอยากที่จะเจอทุกคนถ้าพวกเขามีโอกาส”


	บทสัมภาษณ์ Managing Director, Tokyodo Books: Ms. Omura Etsuko

	ในครั้งนี้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณโอมุระ เอทสุโกะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทร้านหนังสือโตเกียวโดบุคส์ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่ช่วยเป็นสื่อกลางระหว่างผู้บริจาคทุน กับ EDF และเด็กยากจนมาเป็นระยะเวลานาน โดยร้านหนังสือโตเกียวโดบุคส์ทั้ง 10 สาขาเป็นจุดรับบริจาคทุนการศึกษา(Donation Point) ของ EDF ที่ผู้บริจาคทุกท่านคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยเราจะขอแนะนำให้ท่านได้รู้จักเกี่ยวกับร้านหนังสือโตเกียวโดบุ๊คส์มากขึ้น เราได้พบกับคุณ Omura Etsuko ที่ร้านโตเกียวโดบุ๊คส์สาขา ดิ เอ็มโพเรียม เธอเล่าให้เราฟังว่าเคยมาอยู่เมืองไทยโดยเป็นอาสาสมัครสอนภาษาญี่ปุ่นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในภาคอีสาน ชีวิตตอนนั้นของเธอไม่ค่อยหวือหวามากนักเพราะใช้ชีวิตอยู่แต่เพียงในมหาวิทยาลัย แต่เธอก็สามารถรู้สึกได้ถึงความยากลำบากที่ผู้คนในถิ่นทุรกันดารประสบพบเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเช่น การขาดแคลนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานข้อจำกัดของการเข้าถึงโอกาสการประกอบอาชีพ หรือแม้กระทั่งโอกาสทางการศึกษา เช่นการที่เธอยังคงเห็นเด็กบางคนไม่ได้ไปเรียนหนังสืออยู่ หลังจากนั้นเธอก็ได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ทุกอย่างกลับตรงกันข้ามกับที่เห็นที่อีสาน โดยสิ่งที่เธอรู้สึกได้มากที่สุดคือความแตกต่างของการรับรู้ข่าวสารของคนทั้ง 2 พื้นที่ โดยที่กรุงเทพฯ นักเรียนนักศึกษาและผู้คนส่วนใหญ่มีโอกาสได้รับรู้ข่าวสารข้อมูลมากกว่าคนในเขตชนบท เพราะฉะนั้นคนในเมืองใหญ่จึงมีโอกาสที่จะเปิดโลกทัศน์ของตัวเอง ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และสามารถนำความรู้ดังกล่าวมาพัฒนาตัวเองได้ดีกว่าผู้ที่อยู่ในเขตชนบทอย่างเช่นภาคอีสานที่เธอเคยอาศัยอยู่ถึง 3 ปี เกี่ยวกับกองทุนดรุณี หรือมูลนิธิ EDF นั้นเธอได้กล่าวว่า “ดิฉันรู้จักกับกองทุนดรุณีตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่ โดยทางโตเกียวโดบุคส์ได้ให้การสนับสนุนโดยการเป็นจุดรับบริจาค และในเวลาต่อมาทางท่านประธานคุณสุมิโอะ คุราซาว่าได้เล็งเห็นถึงการศึกษาของเด็กไทยในเขตชนบทจึงได้สร้างรูปปั้นนิโนมิยะ คินจิโร่ ซึ่งเป็นนักการศึกษาคนสำคัญของญี่ปุ่น โดยนำเอาแนวคิดการทำบุญปิดทองในพระพุทธศาสนาของประเทศไทยมาประยุกต์ใช้ ให้ลูกค้าที่เข้ามาในร้านได้ร่วมบริจาคเงินซื้อทองคำเปลวมาปิดไว้บนตัวของรูปปั้นนิโนมิยะ นอกจากนั้นก็ยังเคยจัดการแข่งขันซูโม่การกุศลเพื่อเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิที่ทางกองทุนดรุณีดูแลอยู่ด้วยค่ะ” เช่นเดียวกับผู้จัดการร้านคนไทยอีกท่านหนึ่งนั่นก็คือ คุณปรียาภรณ์ หลงศรีภูมิ ซึ่งเป็นคนขอนแก่น โดยกำเนิด เธอก็ได้เล่าว่าชีวิตวัยเด็กเธอถือว่าโชคดีกว่าคนอื่นมาก เพราะทางบ้านมีกำลังส่งให้เรียนหนังสือจนถึงม.6 แต่เพื่อนของเธอบางคนก็ไม่ได้เรียนหนังสือต่อ บ้างก็ต้องทำไร่ไถนาอยู่ที่บ้าน บ้างก็ต้องเข้ามาเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรมหนักในเมืองใหญ่ๆรวมทั้งตัวเธอเองที่เข้ามาทำงานในโรงงานที่กรุงเทพฯหลังจากจบชั้นม.6 จนกระทั่งมาสมัครเป็นพนักงานร้านที่โตเกียวโดบุ๊คส์เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่เธอได้ทำงานที่นี่ เธอก็พยายามใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมโดยการไปเรียนการศึกษานอกโรงเรียน เธอกล่าวว่าการเรียนนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ตลอดชีวิต เมื่อมีการศึกษาเพิ่มมากขึ้นโอกาสที่ดีในการประกอบอาชีพหรือดำรงชีวิตก็ดีขึ้น เธอรู้สึกดีใจที่ได้ทำงานที่นี่และที่นี่ให้ความสำคัญต่อการศึกษาของเด็กไทย โดยนอกจากจะเป็นจุดรับบริจาคของชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว เรายังให้ทางกองทุนฯวางแผ่นพับและจดหมายข่าวให้กับลูกค้าที่สนใจอีกด้วย “ดิฉันรู้สึกปลาบปลื้มยินดีอยู่ในใจทุกครั้งที่เห็นชาวญี่ปุ่นมาบริจาคเงินเพื่อทุนการศึกษาผ่าน EDF ที่เคาน์เตอร์ของร้าน ไม่นึกเลยว่าพวกเขาเหล่านั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นคนต่างชาติต่างภาษาแต่พวกเขาก็ยังใส่ใจในเรื่องของการศึกษาของประเทศไทยและเด็กไทย พวกเขาเองก็คงมุ่งหวังให้เด็กๆเหล่านั้นเป็นเด็กดี มีการศึกษาที่ดีเพื่ออนาคตของพวกเด็กๆเอง เพราะฉะนั้นดิฉันเองก็อยากฝากให้น้องๆที่ได้รับทุนจงตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีกำลังใจในการต่อสู้ต่อความยากลำบากในชีวิต และระลึกอยู่เสมอว่ามีผู้บริจาคทุนของตนอีกคนที่ยังอยากที่จะเจอทุกคนถ้าพวกเขามีโอกาส”

2010-06-06 | เสียงจากผู้บริจาคทุน EDF | เปิดอ่าน 9955

ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสาร EDF

มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา(EDF)
594/ 22 พาทิโอ เรสซิเดนซ์ รัชโยธิน ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร: 02-579-9209 ถึง11 | Line: @edfthai | อีเมล์: [email protected]

Connect with EDF

มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาเป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255
ทุกการบริจาคผ่าน มูลนิธิฯ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย