ปัจจุบันดิฉันอาศัยอยู่กับยาย ส่วนบิดาและมารดาของดิฉันหย่าร้าง และขาดการติดต่อจนถึงปัจจุบัน

 

บ้านหลังเก่าของยายที่ฟ้าใสอาศัยอยู่ และเติบโตขึ้นมาหลังจากที่พ่อแม่หย่าร้าง
และขาดการติดต่อไป

คุณยายของดิฉันเป็นผู้สูงอายุ ได้รับเบี้ยคนชราเดือนละ 600 บาท แต่ด้วยความยากจนยายจึงยังต้องทำงานอยู่ โดยยายจะรับงานรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้าน โดยทำงานทุกอย่างที่มีคนจ้างเช่น ถางหญ้า ทำงานบ้าน ตัดต้นไม้ ซักผ้า เป็นต้น รายได้จากการทำงานก็ขึ้นอยู่กับนายจ้างจะให้ เพื่อให้มีเงินใช้หมุนเวียนในครอบครัว บางครั้งถ้าไม่มีงานรับจ้าง ยายก็จะไปซื้อต้นไม้และใส่รถเข็นนำไปขายตามตลาดนัด ดิฉันจึงช่วยคุณยายทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระ และในวันหยุดก็จะไปช่วยคุณยายทำงานรับจ้างตามสถานที่ต่างๆ เพื่อช่วยยายหารายได้อีกแรงหนึ่งด้วยค่ะ

 

ฟ้าใสจะช่วยเหลือยายทำงานบ้านทุกอย่าง และออกไปทำงารับจ้างกับยายในวันหยุด
เพื่อช่วยหารายได้อีกแรงหนึ่ง

บ้านที่ดิฉันอาศัยอยู่กับยายในปัจจุบัน เป็นบ้านเก่าของคุณยายซึ่งมีสภาพทรุดโทรมตามสภาพและกาลเวลา สำหรับการเรียนของดิฉันในช่วงปี 2563-2564 ซึ่งต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน ทำให้สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของยายในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงเรียน ค่าอาหารกลางวัน และค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆ เช่นชุดนักเรียนไปได้มาก แต่ในปีนี้โรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติ ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการเรียนเหมือนเดิม หนูจึงพยายามใช้เงินอย่างประหยัด และตั้งใจเรียนให้จบชั้น ม.3 เพื่อนำวุฒิไปเรียนต่อระดับชั้น ปวช. ค่ะ

 

ฟ้าใสฝันอยากเป็นนักออกแบบอาคารและควบคุมงานก่อสร้าง เธอจึงมีความตั้งใจ
อยากขอรับทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อระดับชั้น ปวช. สายช่างโยธา
เพื่อนำวุฒิไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูยายต่อไป
 

อาชีพในฝันของดิฉันคือ การได้เป็นนักออกแบบอาคาร ควบคุมงานก่อสร้างอาคารและถนน ดิฉันจึงมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าหลังจากเรียนจบ ม.3 ดิฉันอยากไปเรียนต่อระดับชั้น ปวช. ที่วิทยาลัยเทคนิค สาขาช่างโยธา ดิฉันจึงอยากได้การสนับสนุนทุนการศึกษาจากมูลนิธิ EDF เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียน  และถ้ามีโอกาสดิฉันก็อยากจะเรียนในระดับที่สูงขึ้นต่อไปด้วย เพราะดิฉันเชื่อว่าการศึกษาเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะสามารถทำให้อนาคตตัวเองดีขึ้นได้ค่ะ