ครอบครัวของน้องมีสมาชิก 4 คน ได้แก่ พ่อ แม่ พี่สาว และตัวน้องเอง อาศัยอยู่รวมกันในห้องเช่าขนาดเล็กเดือนละ 2,500 บาท โดยไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง พ่ออายุ 53 ปี เพิ่งเริ่มทำงานที่ร้านคาร์แคร์ ได้ค่าจ้างรายวัน ส่วนแม่อายุ 54 ปีไม่ได้ทำงาน เพราะต้องอยู่บ้านดูแลน้องอุ้มบุญและพาน้องไป-กลับโรงเรียนทุกวัน พี่สาววัย 22 ปี ทำงานที่ร้านข้าวมันไก่ และกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวในการหาเลี้ยงทุกคน
แม้ร่างกายจะไม่แข็งแรงเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่อุ้มบุญก็ช่วยทำงานบ้านเท่าที่ทำได้ เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ล้างจาน เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว แม่จะคอยไปรับส่งน้องที่โรงเรียนทุกวัน และน้องเองก็พยายามช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด เพื่อไม่เป็นภาระให้กับเพื่อนและครูในโรงเรียน
แม้ผลการเรียนจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่น้องอุ้มบุญรักการเรียน โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษและศิลปะ เพราะเชื่อว่าเป็นทักษะสำคัญในการประกอบอาชีพในอนาคต น้องชอบการวาดภาพและมักใช้เวลาว่างฝึกฝีมืออยู่เสมอ เพราะไม่สามารถวิ่งเล่นหรือออกกำลังกายเหมือนเด็กทั่วไปได้
เมื่อถามถึงความฝันในอนาคต น้องอุ้มตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อยากเป็นช่างถ่ายรูปครับ” เพราะน้องหลงใหลในภาพถ่ายวิวทิวทัศน์ และเชื่อว่างานด้านนี้เป็นสิ่งที่ตนสามารถทำได้แม้จะมีความพิการ
ด้วยฐานะทางบ้านที่ยากลำบาก ทำให้น้องอุ้มบุญเป็นกังวลว่าจะไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ จึงได้สมัครขอรับทุนการศึกษาต่อเนื่องจากมูลนิธิ EDF เพื่อให้สามารถเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และก้าวไปสู่ความฝันในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย และประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
|