พันธกิจและวิสัยทัศน์
ผู้บริหารและบุคลากร
ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส
รายงานทางการเงิน
กลุ่มมูลนิธิ EDF
ข้อมูลข่าวสารต่างๆ
ข่าวและกิจกรรมล่าสุด
เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน
เสียงจากผู้บริจาค
ดาวน์โหลด
แบบฟอร์มการบริจาค
แผ่นพับ
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
ติดต่อ EDF
ร่วมงานกับ EDF
คำถามที่พบบ่อย
โครงการทุนการศึกษา
นักเรียนยากจนในระดับ ม.ต้น
นักเรียนเรียนดีแต่ยากจนในระดับ ม.ต้น
นักเรียนเรียนดีแต่ยากจนในระดับ ม.ปลาย / อาชีวศึกษา
นักเรียนพิการเรียนร่วมในโรงเรียนปกติ
นักเรียนกำพร้า 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้
โครงการส่งเสริมศักยภาพทางการศึกษา
โครงการห้องสมุด
โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
โครงการจักรยานยืมเรียน
โครงการส่งเสริมการเกษตรและการฝึกอาชีพ
โครงการโรงเรียนพึ่งตนเองเพื่อการพัฒนา
โครงการส่งเสริมสุขภาพและสุขอนามัย
โครงการส่งเสริมการพึ่งตนเองด้านสุขภาพ
โครงการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน
โครงการอื่นๆ
โครงการกิจกรรมอาสา
โครงการท่องเที่ยวเชิงการศึกษา
บริจาคทุนการศึกษา
สนับสนุนโครงการต่างๆของEDF
ติดต่อกับเด็กนักเรียนทุนของท่าน
บริจาคสมทบทุนโครงการบรรเทา ทุกข์ฉุกเฉิน
ร่วมจัดกิจกรรมพิเศษกับ EDF
ร่วมเป็นอาสาสมัครEDF
โครงการเพื่อสังคมสำหรับบริษัทและองค์กร
THA
ENG
JPN
เกี่ยวกับEDF
พันธกิจและวิสัยทัศน์
ผู้บริหารและบุคลากร
ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส
รายงานทางการเงิน
กลุ่มมูลนิธิ EDF
ข้อมูลข่าวสารต่างๆ >>
ข่าวและกิจกรรมล่าสุด
เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน
เสียงจากผู้บริจาค
ดาวน์โหลด >>
แบบฟอร์มการบริจาค
แผ่นพับ
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
ติดต่อ EDF
ร่วมงานกับ EDF
คำถามที่พบบ่อย
หน้าหลัก
>
เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF
> ของขวัญชิ้นแรก
ของขวัญชิ้นแรก
ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่ใกล้จะมาถึงนี้ หลายๆคนอาจกำลังวางแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวในที่ต่างๆหรือหาซื้อของขวัญเพื่อคนที่รัก แต่สำหรับเด็กชาย โรจนวิทย์ พรประสิทธิ์ หรือน้องหนุ่ม อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านตากแดด จังหวัดอุบลราชธานี ในชีวิตของน้องหนุ่มไม่เคยได้เดินทางไปเที่ยวที่ไหน และไม่เคยได้รับของขวัญใดๆเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
แม้ว่าน้องหนุ่มจะเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว แต่กลับต้องอยู่ในการอุปการะเลี้ยงดูของตา และยาย เพราะแม่ของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขาเกิด และเขาไม่เคยรู้ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของแม่เขา เพราะไม่เคยมีใครเคยพูดถึงแม่ของเขาอีกเลย พ่อของเขาไปทำงานเลี้ยงไก่อยู่ในกรุงเทพ และนานๆทีจะกลับมาเยี่ยมสักครั้ง ด้วยความยากจนทำให้พ่อของน้องหนุ่มไม่สามารถที่จะส่งเสียเลี้ยงดูลูกชายคนเดียวคนนี้ได้ ภาระทั้งหมดจึงตกอยู่ที่ตากับยายที่มีวัยมากถึง 80 ปีแล้ว
ด้วยความขัดสนของครอบครัว น้องหนุ่มต้องยืมรถจักรยานจากโรงเรียน และขี่ไปโรงเรียนเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร ทุกๆวัน เพราะลำพังรายได้จากการทำนาทำไร่เล็กๆน้อยๆของสองตายาย ก็แทบจะไม่พอเลี้ยงทั้งสามปากท้องในครอบครัวอยู่แล้ว เรื่องที่จะจ่ายค่ารถประจำทางให้น้องหนุ่มไปโรเงรียนจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
น้องหนุ่มได้เงินค่าขนมวันละ 5 บาทและบอกกับเราด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ว่า “บางวันที่ตากับยายไม่มีเงิน ผมก็จะไม่ได้เงินค่าขนม และก็ไม่ได้ทานอาหารกลางวัน เพราะลำพังโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนสำหรับน้องๆประถมก็จะไม่พออยู่แล้ว ผมอายครับที่จะต้องไปขอแบ่งน้องๆเขากินอีก ”
ด้วยความที่ต้องการจะแบ่งเบาภาระของตากับยาย น้องหนุ่มจะออกไปวางเบ็ดดักปลาในตอนกลางคืน ถ้าวันไหนที่ได้ปลามาบ้าง อย่างน้อยเขาและตายายก็จะได้มีอาหารมื้อเช้ากินกันประทังความหิว ในเวลาว่างน้องหนุ่มจะมีงานอดิเรกในการประดิษฐ์กรงนกที่ทำจากไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เขาหยุดคิดถึงปัญหาต่างๆในชีวิตที่รุมเร้าไปได้บ้าง “ผมยังไม่รู้เลยว่าโตขึ้นผมอยากเป็นอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้ถ้าไม่ไหวจริงๆผมคงต้องลาออกจากโรงเรียนมาช่วยตากับยายทำมาหากิน ตากับยายลำบากมามากพอแล้ว”
ในชีวิตของน้องหนุ่ม ไม่เคยได้รับของขวัญเลยสักชิ้น ไม่ว่าจะในวันเกิด หรือวันปีใหม่ก็ตาม เมื่อเราถามว่าน้องหนุ่มว่าอยากได้ของขวัญอะไรเป็นของขวัญชิ้นแรกในชีวิต น้องหนุ่มตอบว่า “ผมไม่เคยอยากได้ของขวัญอะไรหรอกครับ แต่ถ้าเป็นไปได้ผมคงอยากให้ตากับยายมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากเรียนสูงๆจะได้มีงานดีๆทำเหมือนคนอื่นเขา และจะได้เลี้ยงดูตากับยายให้ไม่ต้องลำบาก แต่ผมก็ยังไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นจริงได้หรือเปล่า”
วันนี้ ชีวิตของน้องหนุ่มยังคงอยู่บนความไม่แน่นอน และยังมีเด็กนักเรียนยากจนในพื้นที่ชนบทห่างไกลอีกเป็นจำนวนมากกว่า 5000 คนที่มีศักยภาพและความสามารถที่จะศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา แต่ด้วยความขัดสนของครอบครัว บีบบังคับให้พวกเขาเหล่านั้นต้องออกมาหาเงินจุนเจือครอบครัวด้วยการเป็นแรงงานเด็กไร้ฝีมือ ตกอยู่ในความเสี่ยงของการถูกล่อลวง หรือที่ร้ายแรงที่สุดคือการตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์
วันนี้หากท่านลองหันมามองเด็กๆ เหล่านี้บ้างสักนิด และร่วมกันมอบของขวัญชิ้นแรกในชีวิตให้แก่พวกเขา ซึ่งอาจเป็นของขวัญทีเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กคนหนึ่งตลอดไป
2010-11-09 |
เรื่องจริงของเด็กนักเรียนทุน EDF
| เปิดอ่าน 3154
ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสาร EDF
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา(EDF) 594/ 22 พาทิโอ เรสซิเดนซ์ รัชโยธิน ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร: 02-579-9209 ถึง11 | Line: @edfthai | อีเมล์:
[email protected]
Connect with EDF
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาเป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255
ทุกการบริจาคผ่าน มูลนิธิฯ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย
© 2011 EDF-Thailand