ภาพน้องเนส ภายในห้องนอน และกับน้า ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว
ปีนี้เป็นปีที่แย่มากสำหรับครอบครัวของผม เนื่องจากคุณยายติดโควิด และคุณาที่พิการก็ติดด้วย ทั้ง 2 คนต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 15 วัน อาการน่าเป็นห่วงทั้งคู่ เพราะท่านอายุมากแล้ว และไม่ได้รับวัคซีน ส่วนผมกับน้า โชคดีที่ผลเป็นลบ จึงสามารถช่วยดูแลท่านทั้งสองหลังจากกลับจากโรงพยาบาลมารักษาตัวต่อที่บ้าน การเรียนของผมในเทอมที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการระบาดของโรคโควิด-19 แต่โรงเรียนของผมเป็นโรงเรียนเดียวที่เปิดเรียนตามปกติ ผมจึงได้มีโอกาสเรียนได้อย่างเต็มที่ หากใครติดโควิดก็จะให้ปิดเฉพาะห้องนั้นๆ
น้องเนส จะคอยช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง เพื่อแบ่งเบาภาระของทุกคนในบ้าน
ผมชอบเรียนที่โรงเรียนมากกว่าเรียนออนไลน์ เพราะสามารถมีสมาธิกับการเรียน และคุณครูสอนได้เข้าใจดี ทำให้ในเทอมสุดท้ายของการเรียนชั้น ม.3 ของผมสามารถทำเกรดได้ดีกว่าช่วงเทอม 1 ที่เรียนออนไลน์ตลอดทั้งเทอมมาก ผมดีใจและภูมิใจมากๆ ที่ได้เกรดเฉลี่ยเทอมสุดท้ายที่ 3.31 เพราะผมตั้งใจอยากจะเรียนต่อชั้น ปวช. สายช่างยนต์ที่วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ ในปีการศึกษา 2565 นี้ ซึ่งผมคิดว่าเหมาะกับผมที่สุดแล้ว เพราะตอนแรกผมมีความฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอล แต่คิดว่าคงเป็นไปได้ยากเพราะความสามารถอาจจะไม่เพียงพอ แค่ได้เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนผมก็ดีใจมากแล้ว ผมจึงตั้งใจที่จะเรียนต่อสายอาชีพทางช่างยนต์ จบมาจะได้เป็นช่างซ่อมรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ และมีรายได้มาเลี้ยงดูตายาย และครอบครัว
ผมจึงสมัครขอรับทุนจากมูลนิธิ EDF เพื่อสานต่อความฝันของผมครับ จะได้แบ่งเบาภาระของน้า และยาย ผมสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนให้จบ และถ้ามีโอกาสก็จะเก็บเงินส่งตัวเองเรียนชั้นปวส.ต่อไป สำหรับผมที่เป็นลูกครึ่งฝรั่งฐานะยากจน ได้แค่เพียงเท่านี้ผมก็ภูมิใจแล้วครับ ได้เรียนจบมีงานทำ ได้ทดแทนบุญคุณคุณตาคุณยาย และคุณน้าต่อไปครับ ขอบพระคุณมากๆ ครับ
|